มีสติรู้จักสิ่งที่ควบคุมได้และไม่ได้

หลายสิ่งที่เกิดขึ้นมีทั้งอยู่ภายใต้การควบคุมของเราและอยู่นอกเหนือการควบคุม เช่นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น สภาพดินฟ้าอากาศ หรือความคิดของคนอื่นไม่ต้องพยายามเข้าใจและควบคุมทุกอย่าง เพราะไม่มีทางเป็นไปได้การที่เราตระหนักรู้ว่าอะไรที่ควบคุมได้ อะไรที่ควบคุมไม่ได้ แล้วยอมรับมันก็สามารถหยุดความคิดลบๆ ออกไปได้แล้ว 

เสพสื่ออย่างมีสติ 

เดี่ยวนี้มีข่าวปลอมมีค่อนข้างมากดังนั้นควรตรวจสอบถึงแหล่งที่มาและความน่าเชื่อถือจากแหล่งข่าวด้วย หรือถ้ารับมือกับข่าวด้านลบไม่ไหวลองวางมือถือไว้ไกลๆ ตัว แล้วหาอย่างอื่นทำแทนน่าจะช่วยได้เหมือนเป็นการล้างพิษโซเชียล (SocialDetoxing) ทำให้เราจะได้เห็นความเป็นจริง ได้อยู่กับปัจจุบันมีเวลาตั้งสติไตร่ตรอง ก่อนที่จะเชื่อทุกอย่างที่เห็น หรือได้ยินมา

 ฝึกทำสมาธิ

การฝึกทำสมาธิจะทำให้เราโฟกัสที่ลมหายใจเข้าออก ถ้ามีสิ่งรบกวนเข้ามาก็ให้รับรู้ถึงการมีอยู่ของสิ่งรบกวนนั้นแล้วพยายามดึงสติของเราให้กลับมาอยู่ที่ลมหายใจให้ได้ เมื่อจิตใจสงบความคิดก็ไม่ฟุ้งซ่าน พลังลบรอบด้านก็ทำอะไรเราไม่ได้

จดบันทึกอารมณ์ความคิด 

เป็นการระบายอารมณ์ที่ดีเครียดอะไร หงุดหงิดอะไร ในหัวคิดอะไรอยู่ก็เขียนมันออกมาให้หมดเตรียมสมุดกับปากกาให้พร้อม แล้วตั้งหน้าตั้งตาจดบันทึกลงไป พยายามทำทุกวันแล้วลองกลับมาอ่านดูว่าในแต่ละวันเราคิดอะไรบ้างเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ย้อนกลับไปทบทวนความคิด ว่าในตอนนั้นเรารู้สึกอย่างไรแล้ววันนี้เรายังคิดแบบนั้นอยู่หรือไม่ เราจะเข้าใจชีวิตของเรามากขึ้น

ยิ้มกว้างๆ ให้ตัวเอง 

การยิ้มเป็นการละลายความเครียดในหัวเราได้จริงๆเพราะไม่ว่าใครเห็นรอยยิ้มก็อารมณ์ดีขึ้นกันทั้งนั้นแถมยังอยากส่งยิ้มกลับไปให้อีก นอกจากนี้การยิ้มบ่อยๆ จะทำให้หน้าเด็กลงด้วยแค่ไปยืนหน้ากระจก แล้วฉีกยิ้มให้คนตรงหน้า แค่นี้ก็เพิ่มความแฮปปี้ได้แล้ว 

ใครที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองคิดลบอารมณ์เสียไปหมด ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูรับรองว่าจะสามารถช่วยเพิ่มพลังบวกให้กับเราได้แน่นอน แค่เปลี่ยนวิธีคิดปรับมุมมองให้เป็นด้านบวกเท่านั้นเอง