เพราะสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องเผชิญทั้งฝุ่นและเชื้อโรคความสะอาดจึงเป็นอีกเรื่องที่เราต้องใส่ใจทั้งกับตัวเอง ของใช้ และที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดแนวคิดการออกแบบบ้านที่ช่วยลดฝุ่นเชื้อโรค และสิ่งสกปรกจากภายนอก เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคขึ้นด้วย
1. เน้นช่อง/หน้าต่างที่มีแสงแดดเข้าถึง
การที่บ้านมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามานอกจากทำให้บ้านดูปลอดโปร่ง ดูน่าอยู่อาศัยแล้ว แสงแดดยังช่วยฆ่าเชื้อโรคและช่วยทำความชื้นในช่วงกลางคืนทำให้บ้านไม่อับและทึบด้วยแต่ในขณะเดียวบ้านควรมีช่อง/หน้าต่างเพื่อเปิดรับแสงอย่างเหมาะสมหากมากเกินไปจะทำให้บ้านร้อนได้
2. ช่องลมเพื่อการหมุนเวียนอากาศ
มีช่องรับแสงแล้วอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ ลม เพราะการออกแบบบ้านที่คำนึงถึงตำแหน่งช่องลมที่จะช่วยให้บ้านเย็นสบายประหยัดค่าไฟ และระบายอากาศในบ้านไม่ทำให้รู้สึกอุดอู้ มีอากาศถ่ายเทสะดวกที่สำคัญคือไม่พัดฝุ่นและเชื้อโรคเข้ามาในบ้านด้วย
3. หลีกเลี่ยงซอกมุมเล็กๆ
ภายในบ้านก็ต้องออกแบบบ้านให้ง่ายต่อการทำความสะอาดด้วยเพื่อลดการหมักหมมของสิ่งสกปรกและฝุ่นละออง โดยทำมุมให้น้อยที่สุดเลี่ยงการออกแบบที่มีซอกมุมเล็กๆเพราะทำความสะอาดได้ยากและเป็นจุดกักเก็บฝุ่นรวมถึงสิ่งสกปรกได้ง่าย
4. ใช้ระนาบแนวตั้งแทน
การใช้ระนาบแนวตั้งจะทำให้ฝุ่นผงและสิ่งสกปรกเกาะได้ยากกว่าระนาบแนวนอนเพราะระนาบแนวนอน ลมจะพัดสิ่งสกปรกมาเกาะและเข้ามาภายในบ้านของเรานอกจากนี้เวลาฝนตกระนาบแนวตั้งจะชะล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ให้หลุดออกไปได้ง่ายมากกว่า
5. เลือกใช้วัสดุที่ดักจับฝุ่นยาก
แม้วัสดุจะเป็นอีกสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามภายในบ้านแต่ในตอนนี้เราก็ต้องเลือกสุขภาพก่อนโดยเน้นวัสดุที่มีพื้นผิวเรียบ เช่น ไม้หรือหินขัด จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการนำมาออกแบบผนังหรือพื้นเพราะทำความสะอาดได้ง่ายกว่าวัสดุที่ทำจากผ้าและพื้นผิวขรุขระอย่างวอลเปเปอร์แบบผ้า เหล็กดัด หรือผนังก่ออิฐโชว์
การออกแบบบ้านในยุคนี้นอกจากความสวยงามแล้วอีกเรื่องที่ต้องคำนึงคือ สุขภาพของผู้อยู่อาศัย ที่ต้องช่วยกันดูแลให้ปลอดภัยปราศจากฝุ่นและเชื้อโรคที่จะมาทำร้ายคนในบ้านของเราค่ะ