ช่วงนี้ฝนตกหนักแทบทุกพื้นที่ทำให้หลายจังหวัดรวมถึงบางพื้นที่ในกรุงเทพฯ เจอปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งขณะที่น้ำท่วมก็มีอันตรายทั้งจากสัตว์และปัญหาความชื้นหรือเชื้อโรคสะสมด้วยความห่วงใย เราจึงนำวิธีดูแลรักษาบ้านในช่วงหลังน้ำท่วมมาฝากกันค่ะ
1. ป้องกันตัวเองจากสิ่งอันตรายและเชื้อโรค
แม้น้ำจะลดแล้วก็ไม่ควรเข้าบ้านทันทีควรสวมหน้ากากปิดจมูกและปาก เพื่อป้องกันการสูดดมเชื้อราหรือสารเคมีที่มากับน้ำและใส่รองเท้าเพื่อป้องกันของมีคมและเชื้อโรคที่เกิดขึ้นระหว่างน้ำท่วม
2. เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ
หลังจากน้ำท่วมอาจทำให้มีเชื้อโรคสะสมที่มาจากน้ำได้ทันทีที่เข้าบ้านควรเปิดหน้าต่างและม่านออก เพื่อให้อากาศถ่ายเทและให้แสงแดดส่องถึงเป็นการฆ่าเชื้อโรคและทำให้ภายในบ้านแห้งสนิทไปในตัว
3. ตรวจสอบบ้านก่อนทำความสะอาด
โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้า เช่นการรั่วของกระแสไฟฟ้า ปลั๊กไฟ รูเสียบปลั๊กไฟ เป็นต้นแนะนำควรถอดปลั๊กไฟออกมาตากให้แห้ง ก่อนติดตั้งเข้าไปใหม่หรือหากไม่แน่ใจให้ช่างไฟฟ้ามาช่วยจะดีกว่า
4. ลงมือทำความสะอาด
เริ่มด้วยการฉีดน้ำล้างเพื่อไล่น้ำสกปรกและตะไคร่น้ำ ขัดทำความสะอาดล้างสิ่งสกปรกออกไปให้หมด แล้วทิ้งให้แห้งแต่อย่าฉีดล้างเชื้อราในบ้าน เพราะอาจแพร่กระจายได้ควรใช้แอลกอฮอล์หรือน้ำยาซักผ้าผสมน้ำ 300 มล. ต่อน้ำประมาณ 3.8 ลิตรเช็ดเชื้อราตามพื้นหรือเฟอร์นิเจอร์ ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาทีค่อยล้างออกด้วยน้ำ
5. ตรวจเช็คห้องน้ำ
เพราะหลังน้ำท่วมอาจเกิดปัญหาท่อตัน ส้วมเต็ม หรือมีสิ่งอุดตันได้ จึงควรใช้โซดาไฟหรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ ใส่ลงไปในโถเพื่อย่อยสิ่งปฏิกูลที่ติดอยู่หรือถ้าไม่ไหวควรเลือกใช้บริการสูบส้วมหรือช่างประปาช่วยจัดการ
แม้ว่าการตรวจเช็คสภาพบ้านรวมถึงการดูแลรักษาบ้านในช่วงหลังน้ำท่วมอาจมีหลายขั้นตอนแต่เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้านที่เข้ามาบ้านอีกครั้งได้อย่างสบายใจและมีความสุขจึงต้องมั่นใจและทำให้ดีที่สุด นอกจากนี้หากพื้นที่บ้านอยู่ในบริเวณที่เสี่ยงน้ำท่วมเฉียบพลันบ่อยครั้งก็ควรวางแผนรับมือน้ำท่วมล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสียหายของบ้านและสิ่งของในบ้านด้วย