%22+%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99+%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81!!/Cover.jpg)
วิธีการแรกให้เพื่อน ๆ นำเสื้อผ้าทั้งหมดในบ้าน ขนออกมาให้หมด นำมาวางกองรวมกันไว้บนเตียง จากนั้นให้เพื่อน ๆ ค่อย ๆ คัดแยก อย่างใจเย็น แยกทีละตัว ว่าตัวไหนเอา หรือ ไม่เอา คัดแยกด้วยความสุข อย่ารีบร้อน เพราะว่าถ้าเพื่อน ๆ คัดแยกเสื้อผ้าอย่างสุขใจก็จะรู้ว่าตัวไหนที่ได้ใส่แล้วชอบหรือตัวไหนที่เคยใส่แล้วไม่ชอบจะทำให้เพื่อน ๆ คัดแยกได้ดี เราสามารถเลือกได้ว่าจะนำไปบริจาค หรือนำไปขายต่อแบบมือสอง หรือถ้าเสื้อผ้าตัวนั้นใช้การไม่ได้แล้วเราจะทิ้งไปเลยก็ได้ค่ะ
เมื่อเพื่อน ๆ คัดแยกเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาถึงขั้นตอนสำคัญ เพราะเสื้อผ้าจะเรียบร้อยเข้าที่ได้นั่น เราต้องจัดเก็บเสื้อผ้า โดยวิธีการของ “KonMari” จะใช้วิธีการพับเสื้อผ้าแทนที่จะเป็นการแขวน ซึ่งการพับผ้าแบบ “KonMari” นั้นเป็นการพับเสื้อผ้าแบบแนวตั้ง ซึ่งจะทำให้ประหยัดเนื้อที่การจัดเก็บได้อีกมากเลยทีเดียว
เมื่อเพื่อน ๆ พับผ้าเสร็จแล้ว ก็มาต่อกันที่ขั้นตอนสุดท้าย คือการจัดเรียงเสื้อผ้า โดยวิธีการของ “KonMari” คือนำเสื้อผ้าที่พับแล้วมาวางเป็นแนวตั้งได้โดยที่ไม่ล้ม และการนำเสื้อผ้ามาเรียงกันในแนวนอนแทนที่จะเป็นแนวตั้ง ซึ่งจะสามารถเพิ่มเนื้อที่การจัดเก็บได้อย่างมาก เนื่องจากสามารถอัดเสื้อผ้าให้เรียบลงได้อีก เพิ่มความจุของเสื้อที่จะเก็บเข้าไปอีก นอกจากจะทำให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เสื้อผ้าแล้ว ยังสามารถนำพื้นที่ว่าง ๆ ในตู้เสื้อผ้าไปใช้เก็บของอย่างอื่นได้อีกมากมายอีกด้วยล่ะค่ะ