เคล็ดลับการผ่อนบ้านให้หมดไว

การซื้อบ้านนับว่าเป็นการสร้างนี้ก้อนใหญ่ให้กับตนเองบางคนซื้อบ้านช่วงที่อายุยังน้อยอยู่ก็สามารถผ่อนได้ในระยะยาวได้ส่วนคนที่ทำงานมาสักระยะหนึ่งพอมีเงินเก็บแล้วก็อยากจะสร้างตัวมีบ้านเป็นของตัวเองไว้อยู่กับครอบครัวก็ว่ากันไป

ซึ่งบ้านแต่ละหลังนั้นราคาก็ไม่น้อยเลยและยิ่งทำเลที่เดินทางสะดวกอยู่ในตัวเมืองหรือย่านธุระกิจราคาตัวบ้านก็จะยิ่งสูงขึ้นส่วนบ้านที่อยู่ชานเมืองหรือต่างจังหวัดก็จะมีราคาที่ถูกลงมาแต่ก็ยังจัดอยู่ในราคาที่สูงอยู่ดีการซื้อบ้านนั้นไม่ใช่เพียงแค่ว่าซื้อทีเดียวแล้วจบ ยังต้องมีค่าตกแต่ง ต่อเติมไปอีกนั่นคือสิ่งที่จำทำให้งบในการซื้อนั้นบานปลายแต่ด้วยยุคนี้ที่เศรษฐกิจไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อการซื้อบ้านโครงการบ้านหลายโครงการก็จัดโปรโมชั่นมาฟาดฟันกันจนคุณเลือกไม่ถูกนับว่าเป็นช่องทางที่ดีของคนที่คิดกำลังจะซื้อบ้านเลย

บ้านหนึ่งหลังไม่ว่าจะอยู่ในทำเลไหนต่างก็เป็นสิ่งก่อสร้างที่ราคาสูง ดังนั้นจึงเกิดการมีสินเชื่อเพื่อการกู้บ้านจากธนาคารต่างๆปล่อยโปรโมชั่นออกมาให้ลูกค้านั้นสามารถยื่นกู้ได้โดยทีให้ดอกเบี้ยในช่วงแรกต่ำ และดอกเบี้ยลอยตัวในช่วงปีหลัง

หลายคนอาจจะสงสัยว่าการทำสินเชื่อในการกู้บ้านนั้นมีการคิดดอกเบี้ยอย่างไรใน 1- 3 ปีแรก ธนาคารจะปล่อยดอกเบี้ยถูกตามโปรโมชั่นของธนาคารที่เสนอมายกตัวอย่างเช่น เราไปกู้ซื้อบ้านจากธนาคารหนึ่งมามีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปีก็เท่ากับว่าในสองปีแรกคุณจะเสียค่าค่าเงินต้น ดอกเบี้ยไม่ต้องเสียเลยแล้วถ้าเข้าสู่ปีที่ 3 จะเป็นอย่างไร ? ดอกเบี้ยมาตรฐานทั่วไปจะอยู่ที่ 5-7 % ต่อปีขึ้นอยู่การลอยตัวของ MRR

หากถามถึงระยะในการผ่อนสินเชื่อบ้านก็จะต้องใช้เวลาผ่อนนานอยู่แล้ว ตามข้อตกลงของธนาคารต่างๆ จะ 20 ปี 30 ปีก็ว่ากันไป เมื่อผ่อนเป็นระยะเวลานานดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้นการผ่อนบ้านในระยะยาวทำให้สะดวกต่อรายจ่ายจริง แต่ถ้าคำนวนดูดีๆแล้วการผ่อนระยะยาวจะต้องเสียทั้งเงินต้นและเงินดอกคำนวณไปคำนวณมาดอกเบื้ยอาจจะเท่ากับหรือมากกว่าจำนวนเงินต้นได้ถ้าผ่อนในระยะยาว

แต่ถ้าใครไม่อยากจะเสียเงินอีกเท่าตัวทิ้งวันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับการผ่อนบ้านให้หมดไวมาให้ผู้อ่านได้ศึกษากันเผื่อจะมีแนวทางที่นำไปสู่การผ่อนบ้านให้หมดไว้พร้อมกับไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มด้วย

ก่อนที่จะไปรู้เคล็ดลับการผ่อนบ้านมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าในทุกๆเดือนที่เราส่งงวดให้กับธนาคารนั้นเงินก่อนในแต่ละเดือนจะถูกนำไปจัดสรร2 อย่างคือ

           1.เงินต้น

           2.ดอกเบี้ย

           ตามปกติแล้วในช่วงแรกของการผ่อนธนาคารจะเก็บดอกเบี้ยมากกว่ายกตัวอย่าง กู้ซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาท ดอกเบี้ย 7% ต่อปี ระยะเวลาในการผ่อน 30 ปี ตกงวดละ14,000 บาท แต่เงินจำนวน 14,000 บาทนั้นจะถูกหักดอกเบี้ยไป 11,925 บาทซึ่งเงินต้นจะถูกหักไปแค่ 2,075 บาทเท่านั้นเองมาดูกันดีกว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะสามารถผ่อนได้โดยที่เสียค่าดอกเบี้ยน้อยแถมเงินต้นยังลดได้อีกด้วย

1.จ่ายเกินทุกงวด

     โดยปกติแล้วเราจะจ่ายทั้งเงินต้นและเงินดอกในช่วงปีแรกๆที่จ่ายนั้นจะเสียดอกเบี้ยมากกว่าการจ่ายเกินทุกงวดในที่นี้หมายความว่าจ่ายเกินตามที่ธนาคารกำหนดซึ่งตัวที่เกินมานั้นจะไปหักเงินต้นทำให้เงินต้นและดอกเบี้ยลดลงไปอีก

2.จ่ายเพิ่มปีละครั้ง

     การจ่ายงวดเพิ่มคล้ายกับการจ่ายเกินเพียงแต่ว่าจำนวนการจ่ายนั้นจะเพิ่มขึ้นแค่อีกเท่าตัวของจำนวนเงินที่จ่ายในแต่ละงวดก็เหมือนกับว่า 1 ปี เราจ่ายไป 12 งวด แต่จ่ายเพิ่มเป็น 13 งวด ซึ่งเงินงวดที่ 13นั้นจะกลายเป็นเงินต้น ก็สามารถลดดอกเบี้ยได้ในระดับหนึ่ง

3. โปะเพิ่มในช่วงดอกเบี้ยต่ำ

     ในช่วง3 ปีแรกดอกเบี้ยจากธนาคารจะต่ำแล้วแต่โปรโมชั่นที่ได้รับข้อเสนอมาซึ่งเป็นทางที่ดีที่จะโปะเงินเพิ่มจากงวดปกติได้ดีที่สุด เพราะว่าดอกเบี้ยต่ำการโปะเงินจะเป็นการลดต้นและลดดอกเบี้ยภายในตัวยิ่งในช่วงที่ดอกเบี้ยยังไม่สูงเงินต้นก็จะลดลงเร็วพร้อมกับดอกเบี้ยที่จ่ายน้อยอยู่แล้ว

4.เมื่อมีเงินก้อนให้รีบโปะ

     ถ้าผู้อ่านเป็นพนักงานประจำและได้โบนัสทุกปีและถ้าไม่มีภาระอะไร การใช้เงินก้อนมาโปะก็ยิ่งทำให้เงินต้นและดอกเบี้ยลดลงไปมากเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวหรือถ้ามีรายได้จากช่องทางอื่นมากแล้วมีเงินก่อนเข้ามาก็สามารถเอาไปโปะเพิ่มได้อย่าลืมว่ายิ่งจ่ายมากเงินต้นและเงินดอกก็จะลดลงมาเหมือนกัน จากผ่อน 30 ปีอาจจะเหลือแค่ 10 ปีก็ได้

5.ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่กับธนาคารเดิม

           หลายคนอาจจะได้ยินคำว่าRefinance กันบ่อยๆ ซึ่งเป็นวิธีการย้ายหนี้จากธนาคารเก่าไปธนาคารใหม่ซึ่งวิธีนี้ทำให้ดอกเบี้ยนั้นถูกกว่าธนาคารเดิมตามข้อเสนอแต่มีวิธีการที่ง่ายกว่าก็คือการ Retention คือการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่กับธนาคารเดิมโดยลูกหนี้จะต้องมีประวัติการชำระที่ดีมาตลอดถึงจะทำได้ โดยจะต้องมีอายุสินเชื่อ 3ปีขึ้นไปถึงจะสามารถทำได้

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับข้อมูลที่นำมาแชร์กันหวังว่าผู้อ่านจะสามารถนำไปใช้ได้แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเรามีหนี้ก้อนโตแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการไม่ก่อหนี้เพิ่มเพราะถ้าเราสร้างหนี้สินเพิ่มเราก็จะไม่มีวันผ่อนบ้านได้หมดเร็วอย่างแน่นอนดังนั้นผู้อ่านควรวางแผนการเงินให้เหมาะสมกับตัวเองตามกำลังที่พอเหมาะเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขกับทรัพย์สินของตนเอง

 

ช้อมูลจาก : ธนาคารอาคารสงเคราะห์

Guide

เราใช้คุกกี้ ( Cookie ) เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดี และพัฒนาประสิทธิภาพในการนำเสนอข้อมูล ข้อกำหนดและเงื่อนไข

ยอมรับ