รู้จัก “โอมิครอน” โควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ต้องระวัง

เข้าใกล้การระบาดระลอกที่ 5 ของโรคโควิด-19 ที่ทำให้วิถีการใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แถมมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง จากล่าสุดเกิดสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วที่ชื่อว่า “โอมิครอน” เกิดขึ้นมา
เข้าใกล้การระบาดระลอกที่ 5 ของโรคโควิด-19 ที่ทำให้วิถีการใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แถมมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง จากล่าสุดเกิดสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วที่ชื่อว่า “โอมิครอน” เกิดขึ้นมา
ต้นกำเนิดสายพันธุ์โอมิครอน 
การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนถูกระบุแยกแยะออกมาเป็นครั้งแรกในจังหวัดเคาเต็ง (Gauteng) ของแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งโอมิครอนมีการสะสมการกลายพันธุ์และหลักฐานที่พบในเบื้องต้นที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่น่ากังวล (VOC)อื่นๆ และปัจจุบันการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศแอฟริกาใต้ 
ซึ่งขณะนี้มีการพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแล้วหลายประเทศได้แก่ แอฟริกาใต้ บอตสวานา เบลเยียม ฮ่องกง อิสราเอล อังกฤษ เยอรมนี อิตาลีเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก ออสเตรเลีย แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก สหรัฐอเมริการวมถึงประเทศไทยที่มีพบผู้ติดเชื้อแพร่กระจายถึง 55 จังหวัด
อาการที่พบได้ของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 
อาการแรกเริ่มมีน้ำมูกจาม ปวดหัว ต่อมาอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ หรือบางคนมีเหงื่อออกตอนกลางคืนสำหรับผู้ไปพื้นที่เสี่ยง ควรตรวจ ATK แม้ฉีดวัคซีนครบ สังเกตอาการหากไม่ดีขึ้น ให้รีบพบแพทย์
ความรุนแรงของสายพันธุ์โอมิครอน 
ส่วนใหญ่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการเพราะในระยะเริ่มต้นการติดเชื้ออาจจะยังมีอาการน้อย การเกิดปอดบวม หรือต้องเข้าโรงพยาบาลจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า มีความรุนแรงอย่างไร คงต้องรอคำตอบอีกประมาณ 2 สัปดาห์ก็น่าจะรู้เรื่องแต่แนวโน้มความรุนแรงลดลง
อย่างไรก็ตามแม้การแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 จะกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง การใช้ชีวิตแบบ NewNormal ยังมีความจำเป็นที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด ด้วยการล้างมือดูแลสุขอนามัย ใส่หน้ากากอนามัย และกำหนดระยะห่างเพื่อให้มีจำนวนผู้ป่วยให้น้อยที่สุดและหากรู้สึกมีความเสี่ยงติดเชื้อให้รีบเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจทันทีเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนรอบข้าง
Living Tips

เราใช้คุกกี้ ( Cookie ) เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดี และพัฒนาประสิทธิภาพในการนำเสนอข้อมูล ข้อกำหนดและเงื่อนไข

ยอมรับ