พื้นที่โปร่งโล่งเดินได้สบาย                                                                                

การตกแต่งภายในด้วยความโปร่งโล่งทั้งการยกเพดานสูง การติดตั้งบานประตูหรือหน้าต่างด้วยบานกระจกใสเพื่อให้ผู้สูงอายุมองเห็นภายนอกบ้านได้อย่างปลอดโปร่งและทำให้บรรยากาศภายในให้สดชื่นอยู่ตลอดเวลาจะช่วยให้พวกเขามีความผ่อนคลาย ไม่เครียด ที่สำคัญเมื่อบ้านปลอดโปร่งทำให้มีแสงส่องสว่างทั่วถึงและทำให้ผู้สูงอายุเดินได้อย่างสะดวกเสริมในเรื่องความปลอดภัยได้อีกด้วย 

ติดตั้งราวจับ

บริเวณทางเข้าไปจนโถส้วมหรือจุดอาบน้ำควรติดตั้งราวจับเพื่อให้ผู้สูงอายุยึดจับแทนการไปจับอุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่าง ๆ เช่นอ่างล้างหน้า ราวแขวนผ้า หรือโถส้วม เพราะสุขภัณฑ์อาจหลุดออกมาและเป็นอันตรายได้โดยตัวราวจับและสกรูยึดติดผนังต้องรับน้ำหนักเหนี่ยวตัวลุกยืนได้สูง 

ขยายขนาดของประตู                                                                                      

การขยายขนาดของประตูหน้าบ้านหรือประตูทางเข้าห้องนอนก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผู้สูงอายุอยู่อาศัยอย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้นเช่น ขยายขนาดความกว้างของประตูเป็น 1.5 เมตร รวมทั้งการเปลี่ยนมาใช้ลูกบิดประตูแบบคันโยกแทนการใช้ลูกบิดแบบกลมเพราะต้องใช้แรงมากในการเปิด  

เพิ่มความฝืดของพื้น 

การเลือกพื้นห้องนอกจากห้องน้ำแล้วถ้าเป็นพื้นไม้ ไม่ควรขัดให้มันวาวเพราะเสี่ยงต่อการลื่นล้ม ปัจจุบันมีน้ำยาลดความวาวและความลื่นใช้ได้ทั้งแบบฉีดและทาตามวิธีการใช้งานข้างภาชนะบรรจุหรือหากต้องการปูพื้นด้วยกระเบื้อง ควรเลือกปูกระเบื้องชนิดที่กันลื่นได้ อย่างกระเบื้องยางเกรด R9 ขึ้นไปโดยเฉพาะพื้นที่เปียกเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ง่าย ควรเลือก กระเบื้องยางเกรด R12สำหรับพื้นที่เปียกอย่างห้องน้ำ ห้องครัวหรือถ้าต้องการปูพรมแนะนำให้ติดขอบหรือมุมของพรมให้แน่น ไม่นูนหรือเผยอขึ้นมาเพราะอาจทำให้สะดุดล้มได้

คำนึงถึงความสูงของเฟอร์นิเจอร์ 

กรณีภายในบ้านมีผู้สูงอายุที่ต้องนั่งรถเข็นเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะ ต้องลดระดับลงมาจากความสูงของโต๊ะปกติเล็กน้อย โดยหน้าโต๊ะควรสูงประมาณ75 เซนติเมตรและพื้นที่ใต้โต๊ะควรมีความสูงไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตรไม่ควรมีลิ้นชัก และมีความลึกมากกว่า 40 เซนติเมตรเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถเข็นรถเข้าไปใช้งานได้สะดวกนั่นเองส่วนเตียงนอนควรสูงประมาณ 30 เซนติเมตรเพื่อให้พอดีกับสรีระเวลาการลุก-นั่ง 

นอกจากการตกแต่งภายในบ้านที่เน้นเรื่องความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุแล้ว  การดูแลทางด้านสุขภาพจิตใจให้ดีตามก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะการได้เข้าสังคม ใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆกับคนในครอบครัว จะทำให้ผู้สูงอายุเกิดความรู้สึกภูมิใจในตนเองมีความหมาย และห่างไกลจากภาวะซึมเศร้าได้ด้วย